สวัสดีชาวคอกาแฟทุกท่านครับ
ทุกสรรพสิ่ง มีคุณอนันต์ ก็ย่อมมีโทษมหันต์
กาแฟก็เช่นกันครับ ย่อมมีทั้งสองด้าน
ไปดูกันเลยครับ
ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ
>>>>> ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน 60%
เนื่องจากกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระและยังมีสารประกอบที่เรียกว่าควินิน (Quinines) ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น
เนื่องจากกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระและยังมีสารประกอบที่เรียกว่าควินิน (Quinines) ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น
>>>>> ช่วยลดอัตราการเกิดภาวะความจำเสื่อม 65%
จากการวิจัยพบว่ากาแฟมีส่วนช่วยในการชะลอภาวะความจำเสื่อมโดยไปหยุดยั้งหรือต้านการจับตัวของคอเรสเตอรอล (Cholesterol) ที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย
จากการวิจัยพบว่ากาแฟมีส่วนช่วยในการชะลอภาวะความจำเสื่อมโดยไปหยุดยั้งหรือต้านการจับตัวของคอเรสเตอรอล (Cholesterol) ที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย
>>>>> ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งใน
ลำไส้ใหญ่ 50%
จากการศึกษาถึง 12 ปีกับผู้หญิงในญี่ปุ่นพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 3 แก้วหรือมากกว่าต่อวัน มีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้
จากการศึกษาถึง 12 ปีกับผู้หญิงในญี่ปุ่นพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 3 แก้วหรือมากกว่าต่อวัน มีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้
>>>>> ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ (Alzheimer) 65%
จากการศึกษากับคนวัยกลางคนในประเทศฟินแลนด์ จำนวน 1,400 พบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 5 ถ้วยต่อวัน สามารถลดอัตราเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ได้ถึง 65%
จากการศึกษากับคนวัยกลางคนในประเทศฟินแลนด์ จำนวน 1,400 พบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 5 ถ้วยต่อวัน สามารถลดอัตราเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ได้ถึง 65%
>>>>> ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคตับแข็ง 80%
จากการศึกษากับผู้ดื่มกาแฟจำนวน 125,000 คน พบว่าการดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน ทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งลดลงถึง 20% ถ้าดื่ม 4 แก้วต่อวันก็จะลดอัตราเสี่ยงได้มากถึง 80%
จากการศึกษากับผู้ดื่มกาแฟจำนวน 125,000 คน พบว่าการดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน ทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งลดลงถึง 20% ถ้าดื่ม 4 แก้วต่อวันก็จะลดอัตราเสี่ยงได้มากถึง 80%
>>>>> ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 50%
ผู้ชายที่ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 แก้วต่อวัน มีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 40%
ผู้ชายที่ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 แก้วต่อวัน มีแนวโน้มในการลดอัตราเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 40%
และ 25% สำหรับผู้หญิงที่ดื่มกาแฟในปริมาณที่เท่ากัน
และ 45% สำหรับคนที่ดื่มมากกว่า 4 แก้วต่อวัน
>>>>> ช่วยลดอาการปวดหัว
บ่อยครั้งที่คาเฟอีน (Caffeine) ถูกใช้เป็นยาแก้ปวดหัวโดยเฉพาะอาการปวดหัวจากไมเกรน โดยสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ถึง 40% นอกจากนี้ยาแก้ปวดหลายประเภทยังมีส่วนผสมคาเฟอีน (Caffeine) 65 mg เช่น Aspirin, Ibuprofen, Acetaminophen
>>>>> ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
ในผู้หญิง 25%
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยของสเปนพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 2-3 แก้วต่อวัน มีอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มและมากกว่าผู้ชาย 25%
>>>>> ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตัน
ในเส้นเลือดในผู้หญิง 43%
จากการศึกษากับนางพ ยาบาล จำนวน 83,000 คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ และดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดได้ถึง 43%
จากการศึกษากับนางพ ยาบาล จำนวน 83,000 คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ และดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดได้ถึง 43%
>>>>> ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
จากการศึกษากับผู้ชาย จำนวน 50,000 คน เป็นเวลา 20 ปี พบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวันจะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มเลย อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเกินปริมาณที่เหมาะสมก็ย่อมส่งผลเสียแก่ร่างกายได้ โดยเฉพาะในกาแฟที่มักนิยมดื่มในลักษณะกาแฟเย็น ซึ่งต้องใส่ทั้งนมหรือครีม และน้ำตาล ทำให้มีปริมาณแคลอรี่เพิ่มขึ้นกว่าการดื่มแต่กาแฟเพียงอย่างเดียวมาก
โทษของการดื่มกาแฟ
<<<<< ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
จากการศึกษาวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นนานถึง 12 ชั่วโมง ดังนั้น กลุ่มคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจึงไม่ควรดื่มกาแฟขณะรู้สึกเครียดหรือมีแรงกดดันมากจากการทำงาน
<<<<< คาเฟอีนในกาแฟจะส่งผลกระทบต่อการ
ดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด
เช่น แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี ดังนั้น เด็กจึงไม่ควรดื่มกาแฟ
<<<<< กาแฟจะทำให้ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารเป็นแผล
ในกระเพาะร้ายแรงขึ้น
เนื่องจากกาแฟจะทำให้กระเพาะอาหารมีน้ำย่อยออกมามากขึ้น จนทำให้เป็นแผลมากขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารที่เป็นแผลในกระเพาะไม่ควรดื่มกาแฟมาก โดยเฉพาะในช่วงท้องว่าง
<<<<< กาแฟทำให้เกิดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณประโยชน์ทำให้ขับปัสสาวะมากขึ้น แต่ถ้าดื่มกาแฟเป็นเวลานานจะทำให้สูญเสียแคลเซียมไปกับปัสสาวะมากจนเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงวัยทองไม่ควรดื่มกาแฟมากเกินควร
<<<<< หญิงตั้งครรภ์ถ้าดื่มกาแฟมากเกินไปจะทำให้ทารก
ที่อยู่ในครรภ์เจริญเติบโตไม่เป็นปกติ
หรืออาจแท้งได้ เนื่องจากคาเฟอีนจะส่งผลต่ออวัยวะภายในของทารกที่ยังอ่อนแอ
<<<<< กาแฟมีผลต่อการดูดซึมวิตามิน B1
ซึ่งเป็นวิตามินที่รักษาความสมดุลและความมั่นคงของระบบประสาท ดังนั้น ผู้ที่ขาดวิตามิน B1 จึงไม่ควรดื่มกาแฟ
<<<<< คนเป็นโรคหัวใจไม่ควรดื่มกาแฟ
เพราะคาเฟอีนมีบทบาทในการกระตุ้นหัวใจ ทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าเป็นคนสูงอายุที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจดีเกินไป มีการทำงานของหัวใจที่หนักมากยิ่งขึ้น และทำให้หัวใจเสื่อมเร็วยิ่งขึ้นด้วย
<<<<< คาเฟอีนในกาแฟจะแทรกแซงการหลับ
ด้วยคลื่นรบกวนช้าๆ แต่ว่าลึกๆ ซึ่งทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
<<<<< ทำให้เกิดน้ำหนักเกินเนื่อง
จากน้ำตาล นม และครีมที่เติมเข้าไป นอกจากนี้การดื่มกาแฟยังมักนิยมรับประทานควบคู่กับขนม เช่น เค้ก หรือคุกกี้ต่างๆ จึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักได้ง่าย
<<<<< การดื่มในปริมาณมากทำให้เกิดอาการมือสั่น กระวนกระวาย โกรธง่ายและปวดศีรษะ มีผลต่อหัวใจและเส้นเลือด ทำให้กล้ามเนื้อของหลอดเลือดคลายตัวหรือบีบรัดมากขึ้น เกิดความเครียดได้ง่าย
ทุก ๆ อย่าง ต้องบริโภคอย่างพอดี
ควรศึกษา และเรียนรู้ให้ดี
แล้วชีวิตของเราทุกคน
จะมีแต่ความสุขครับ
..............................................................................
กาแฟ 22in1
มีส่วนผสม ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถึง 22 ชนิด
ผ่านมาตรฐาน และถูกต้องตามกฎหมาย
สุขภาพดี รายได้งาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น